ถอดคำต่อคำจุติไกรฤกษ์ สุดย้อนแย้ง 1 ประเทศ 2 ระบบ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นภาระงบประมาณ บำนาญข้าราชการปรับขึ้นได้ทุกปี
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 รมว.พม ได้ตอบกระทู้ถามเรื่องนโยบายของรัฐบาล ในเรื่อง การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดย รวม.พม. ได้กล่าวว่า
“สิ่งที่ทุกคนทุกพรรคหาเสียงไว้ก็ตั้งใจว่าต้องทำได้จริง ถามว่าทำไมต้องตั้งใจว่าทำได้จริง เพราะว่าการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเป็นได้โดยดี เราจะมีเงินจากภาษีรายได้มาจ่ายให้กลับผู้สูงอายุคนละ 1,000 บาททุกคน ผมได้เข้ามารับหน้าที่เมื่อ พ.ศ. 2562 กราบเรียนว่า ณ ปัจจุบันนี้งบประมาณรายจ่ายที่ดูแลผู้สูงอายุนี้ ประมาณ 79,000 ล้านบาท คือผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพนี้ 10,400,000 คน เราก็อยากให้ได้ทุกคนนะครับ ถ้าเกิดจ่ายให้ถ้วนหน้า ก็จะเป็น 12 ล้านคน 1.2 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นมีข้อแตกต่างอยู่ 4 หมื่นล้านบาท กราบเรียนท่านประธานว่าในจำนวนถ้าเผื่อเงินมีพอจ่ายให้ถ้วนหน้าทุกคน แล้วถ้าเกิดเงินมันขาดแคลนก็ต้องดูแลคนที่อยากจนที่สุดก่อนก็จะมีคนที่มีบำนาญ มีบำนาญก็สามารถดูแลตัวได้ ซึ่งบำนาญนั้นอาจจะมากกว่าเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยซ้ำไป มีฐานะดีแล้วก็มีผู้ที่ไม่ประสงค์จะรับ ทั้งหมดมีประมาณ 1.6 ล้านคน ที่ยังไม่ได้รับถ้วนหน้า ก็อยากจะกราบเรียนว่าอุปสรรคมีหลายปัจจัย ที่ไม่สามารถทำได้ อย่างที่สำนักเลขาธิการรัฐมนตรีได้ตอบ ส.ส. มา ก็คงตอบด้วยความจริงว่ามีปัญหาเรื่องของฐานะทางการคลังรายรับรายจ่ายของรัฐบาล ก็ต้องกราบเรียนว่าในวันที่หาเสียงนั้น เขามีการประมาณการณ์ เศรษฐกิจโลกขยายตัวปีละเท่าไหร่ เศรษฐกิจไทยขยายตัวปีละเท่าไหร่ อัตราแรกเปลี่ยน รวมถึงราคาน้ำมันทุกอย่างที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ก็ต้องนำมาพิจารณาด้วย เมื่อไม่สามารถหาเงินมาได้ครบ ที่จะดูแลถ้วนหน้าแล้ว ก็ต้องมาดูว่าความเป็นธรรมที่ะให้ถ้วนหน้ากับคนที่มีบำนาญอยู่แล้ว อย่างข้าราชการมีบำนาญหมื่นกว่าบาท สมควรที่จะมารับในส่วนนี้มั้ย ภาคหนึ่งก็บอกว่าก็ควรสมควรเพราะผู้สูงอายุนั้นเมื่อเกษียณไปแล้วไม่ควรจะแยกแยะว่า เขานั้นเป็นยังไง ควรจะได้รับเท่าเทียมกัน ผมก็อยากจะกราบเรียนว่าปัญหาและอุปสรรคที่มีที่ท่านถามในคำถามที่สองคือ มีเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจโลก และก็มีปัญหาของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป มีปัญหาเรื่องการระบาดของโควิดก็ทำให้ การดำเนินงานเป็นไปได้ยากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะไม่ละความพยายามที่จะทำให้ได้ถ้วนหน้าทุกคน เมื่อโอกาสอำนวย แล้วก็ฐานการคลังมีฐานะที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ครับ ขอบพระคุณครับ”
ในปัจจุบันการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุใช้งบประมาณเบี้ยยังชีพ 7,5321.81 ล้านบาท สำหรับ 10,330,213 คน ขณะที่งบประมาณบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ 310,600 ล้านบาท สำหรับ 8 แสนคน หากทำระบบเป็นถ้วนหน้า 1,000 บาทสำหรับ 12 ล้านคน จะใช้งบประมาณ 144,000 บาทต่อปี จะเห็นว่างบประมาณ 144,000 บาทต่อปี ที่จะยกระดับจาก 600 บาทเป็น 1,000 บาทสำหรับทุกคน จะใช้งบประมาณน้อยกว่า งบประมาณบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ จากข้ออ้างปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนได้รับผลกระทบ สวัสดิการถูกแช่แข็งไม่มีการพัฒนา กลับกันสวัสดิการ บำนาญข้าราชการไม่เคยปรับลดลงมีแต่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ดังนั้นเหตุผลที่งบประมาณไม่เพียงพอจึงเป็นเพียงข้ออ้างที่ปฏิเสธสวัสดิการถ้วนหน้า ปฏิเสธการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน 60 ล้านคน
ที่มา : https://fb.watch/a_7FmV-huj/